Travel Bubble คือ การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ ที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่าๆ กัน
มาทำความรู้จัก Travel Bubble เปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือจะเรียกว่า New Normal ของการท่องเที่ยวในยุคโควิด-19 ก็ว่าได้
หลังจากรัฐบาลออกมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 แล้ว เรื่องของการเปิดประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่จะดำเนินการต่อไป วันนี้ขอนำเรื่อง Travel Bubble หรือ แนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด มาแนะนำให้รู้จักกัน
Travel Bubble คือ การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ ที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่าๆ กัน โดยดูจากสถานการณ์การระบาดในประเทศว่ามีการผ่อนคลายการควบคุมโรคแล้วหรือไม่ มีการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศอยู่หรือไม่ และดูเรื่องความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มีต่อกันด้วย
Travel Bubble จะทำได้ต่อเมื่อประเทศคู่ตกลงไม่มีผู้ติดเชื้อแล้ว หรือมีจำนวนผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกัน มีการจัดการที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพเท่าๆ กัน ดังนั้น ทั้ง 2 ประเทศจะต้องมีความเชื่อมั่นในการจัดการโรคโควิด-19 ซึ่งกันและกัน มีมาตรการตรวจหาเชื้อและป้องกันอย่างเข้มงวด โดยต้องตรวจหาเชื้อก่อนออกนอกประเทศต้นทาง และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศปลายทาง
สำหรับแนวคิดการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในยุคโควิด-19 ชูจุดแข็งของประเทศด้านสาธารณสุขและการฟื้นความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยว หลังจากมีการล็อกดาวน์มาระยะหนึ่ง
ส่วนแนวทางการดำเนินการ จะมีการเลือกเป้าหมายจากประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดี โดยพิจารณาจากเกณฑ์ข้อกำหนดและคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข มีมาตรการตรวจหาเชื้อและป้องกันอย่างเข้มงวด โดยต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางออกนอกประเทศต้นทาง และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย รวมทั้งต้องซื้อประกันโควิด-19 เพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล หากเกิดการติดเชื้อและต้องเข้ารักษาตัวในระหว่างอยู่ในประเทศไทย
ทั้งนี้ ผู้เดินทางภายใต้ความตกลง Travel Bubble ไม่ต้องถูกกักตัว แต่ทั้ง 2 ฝ่าย จะกำหนดจำนวนคนที่อนุญาตให้เดินทางแลกเปลี่ยนกัน และจัดการแบบพิเศษในเรื่องการขอวีซ่า การโดยสารเครื่องบิน ที่พัก การเยี่ยมเยือน การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และผู้รับประกัน
นอกจากนี้ อาจมีการกำหนดพื้นที่ปิด (Sealed Area) เป็น Safe Zone for Tourism โดยพิจารณาจากแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองหลักและเมืองรองที่ประชาคมเต็มใจเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาพำนักและท่องเที่ยว วางมาตรการ Safe Hospitallity Services ในห่วงโซ่อุปทาน เช่น แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ต้องได้รับมาตรฐาน Sefety & Health Administration (SHA) ที่รับรองโดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
สำหรับ Travel Bubble กลุ่มแรกจะเป็นนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวในกลุ่มเดินทางเพื่อการแพทย์และสุขภาพ ไม่ใช่กรณีเข้ามาเพื่อรักษาโควิด-19 ในประเทศไทย เมื่อดำเนินการสักระยะหนึ่งและสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี จึงจะพิจารณาให้นักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดินทางมาเป็นคณะเข้ามา โดยเป็นกลุ่มขนาดเล็ก หลังจากนั้นจึงจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ (Free Individual Traveler-FIT)
โดยประเทศเป้าหมายในระยะแรก ประกอบด้วย จีน (รวมฮ่องกง มาเก๊า) เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศในตะวันออกกลางบางประเทศ
อย่างไรก็ตาม แนวทางข้างต้นทั้งหมดนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจน เพื่อนำเสนอที่ประชุม ศบค. ต่อไป